อัฟโฟกาโต้ Affogato เมนูกาแฟจากอิตาลี เดี๋ยวนี้คอกาแฟ มักจะได้ยินชื่อเมนูกาแฟ ที่ไม่ค่อยคุ้นหู ชื่อก็ฟังดูแปลก อัฟโฟกาโต้ เมนูที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง จากร้านคาเฟ่ ที่ตอนนี้ก็ได้นำเมนูนี้มาอยู่ในเมนูของร้าน แต่ก็ยังสงสัยว่า เมนูนี้คืออะไร จะต้องดื่มอย่างไร วันนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเมนูกาแฟนี้กัน
Affogato (อัฟโฟกาโต้) คืออะไร ?
เมนูกาแฟนี้ เกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี ซึ่งถือเป็นเมืองต้นตำหรับเมนูกาแฟมากมาย หลายเมนู และยังเป็นแหล่งผลิตกาแฟชั้นยอดของโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ที่ใครหลาย ๆ คนอยากจะไปเที่ยวสักครั้ง ยิ่งสำหรับคนที่รักการดื่มกาแฟ ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวแล้ว ก็มักจะได้ยินวลีที่พูดติดปากกันมาว่า ถ้าหากไม่ได้ลองจิบกาแฟเลิศรสที่มีชื่อของที่นี่สักแก้วนึง การมาเที่ยวอิตาลีก็คงไม่สมบูรณ์
กาแฟของชาวอิตาลีนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มธรรมดา ๆ ที่รสชาติอร่อยเท่านั้น ยังเต็มไปด้วยวิธีชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันชาวอิตาลี อีกทั้งยังเป็นเหมือนกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย การดื่มกาแฟของชาวอิตาลี จึงเต็มไปด้วยความสุข นอกจากนี้อิตาลี ยังเป็นต้นกำเนิด ของอีกหลายหลายเมนูกาแฟ ไม่ว่าจะไปท่องเที่ยวที่เมืองไหนในอิตาลี ก็จะเต็มไปด้วยกาแฟชั้นยอด และคาเฟ่จำนวนนับไม่ถ้วนกันเลยทีเดียว
นับตั้งแต่อดีต คนอิตาลีได้สร้างสรรค์ทั้งเมนูอาหารจานเด็ด เช่น พิซซ่า สปาเก็ตตี้ ลาซานญ่า และอื่น ๆ อีกมากมาย เมนูกาแฟก็เช่นเดียวกัน อิตาลีได้กำเนิดเมนูกาแฟที่เป็นที่รู้จัก โด่งดังไปทั่วโลก และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เช่น เอสเพรสโซ กาแฟที่มีความเข้มข้นสูง เป็นส่วนผสมหลักของกาแฟอีกหลายหลายเมนู อเมริกาโน กาแฟเติมน้ำร้อนผสมลงไปในเอสเพรสโซ ให้มีรสชาติที่เบาขึ้น และดื่มง่าย หรือ คาปูชิโน กาแฟที่เติมนมลงไป
ซึ่งเมนูที่จะพูดถึงกันวันนี้ เป็นอีกเมนูของชาวอิตาลี ที่ได้นำสองสิ่ง ที่ขึ้นชื่อ มารวมเข้ากันอย่างลงตัว ซึ่งก็ คือ กาแฟ และ ไอศกรีม “เจลาโต้” (Gelato) โดยการนำกาแฟที่เข้มข้นอย่าง “เอสเพรสโซ” กับ ไอศกรีม “เจลาโต้” (Gelato) รสวานิลลา ที่หอม หวาน ละมุน มาผสมเข้าด้วยกัน ทำให้รสชาติของกาแฟ และไอศกรีมตัดกันได้อย่างลงตัว
ความเป็นมาของอัฟโฟกาโต้
เมนูนี้ ได้เกิดขึ้นในประเทศอิตาลี Merriam-Webster Dictionary ระบุไว้ว่า คำว่า “Affogato” ปรากฏขึ้นครั้งเเรกใน ภาษาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1992 ซึ่งเป็นคำจากภาษาอิตาลี แปลว่า “ถูกทำให้จม”
สิ่งที่ถูกทำให้จมก็คือ ไอศกรีม วิธีการเสิร์ฟของเมนูนี้ จะเสิร์ฟเป็นซ็อตเอสเพรสโซ กับไอศกรีมวานิลลา ซึ่งเมนูนี้ได้รับความนิยมในประเทศสหรัฐอเมริกา และร้านกาแฟแทบทุกร้านจะมีเมนูนี้ ต่างจากประเทศไทย ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในร้านกาแฟมากนัก แต่ในปัจจุบันก็เริ่มมีเมนูอัฟโฟกาโต้ขึ้นมาบ้างแล้ว
เมื่อ อัฟโฟกาโต้ได้รับความนิยมขึ้นมาบ้างแล้ว บางร้านก็มีการเปลี่ยนแปลงสูตร หรือดัดแปลง เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ แตกต่างให้กับเมนูกาแฟชนิดนี้ คือเปลี่ยนจากที่เป็นช็อตกาแฟ มาเป็นชาเขียว หรือโกโก้แทน เพื่อให้คนที่ไม่ชอบทานกาแฟ สามารถทานเมนูนี้ได้ด้วย หรือจะเป็นการเปลี่ยนรสชาติของไอศกรีม จากวานิลลา เป็นรสนม ช็อคโกแลต สตรอว์เบอร์รี่ ชาเขียว และอื่น ๆ ก็ได้รสชาติที่แตกต่าง และน่าลิ้มลอง
วิธีการดื่มเมนูกาแฟ อัฟโฟกาโต
- ถ้าหากทางร้านเสิร์ฟ โดยที่แยกช็อตกาแฟเอสเพรสโซ และไอศกรีมแยกกันมา พร้อมทั้งให้ถ้วยกาแฟแยกมาอีก ให้นำช้อนตักไอศกรีมก่อน แล้วใส่ลงไปในถ้วยกาแฟ จากนั้นจึง ค่อย ๆ เทช็อตเอสเพรสโซ ลงไป ช้า ๆ จนหมด
- แต่ถ้าหากทางร้าน เสิร์ฟไอศกรีมมาในถ้วยกาแฟเลย และมีช็อตเอสเพรสโซแยกมาให้ ก็ยิ่งง่ายเลย เราสามารถเท ช็อตเอสเพรสโซลงไปช้า ๆ ได้เลย
เมื่อเราทำตาม 2 วิธีข้างบนแล้ว ช็อตกาแฟเอสเพรสโซร้อน ๆ ที่ถูกเทลงไป ก็จะไปค่อย ๆ ละลาย และรวมกับไอศกรีมเย็น ๆ กลายเป็นฟองครีมที่หวาน นุ่ม ละมุน จากนั้นก็ให้เราใช้ช้อนตักกินได้ทันทีเลย
ในปัจจุบันนี้ มีการปรับสูตร เปลี่ยนภาชนะที่ใส่ และเพิ่มเติมวัตถุดิบตามรสนิยมตามที่ท้องถิ่นนั้นๆ เช่น การเพิ่มไอศกรีม ใช้กาแฟผสมช็อคโกแลต หรือแม้กระทั่งมีการเติมเหล้า เช่น เหล้าเบย์ลี่ส์ ไอริช ครีม หรือเหล้าอะมาเร็ตโต้ (กลั่นจากบรั่นดี ผสมกับอัลมอนด์ วานิลลา น้ำเชื่อ และแอปริคอต) บางสูตรก็มีการเพิ่มช็อตเอสเพรสโซ บางทีก็มีการใช้พวกถั่วอบ เช่นอัลมอนด์สไลด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์บด หรือ ฮันนี่คอบ์ มะพร้าวขูด ลูกเบอร์รี่ ช็อคโกแลตชิพ ทอฟฟี่รังผึ้ง หรืออบเชยเข้าไป เป็นท็อปปิ้งโรยหน้า เพื่อเพิ่มมิติในการกินอัฟโฟกาโต้ ให้มีความกรุบกรอบ แถมยังมีการปักสะระแหน่ เพิ่มสีสันให้กับแก้วกาแฟเมนูนี้ เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่มีความหลากหลาย และเปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์
ภาชนะ หรือแก้วที่ใส่จากเดิมเป็นแก้วกาแฟเซรามิคธรรมดา ภายหลังบาริสต้าก็มีการเปลี่ยนไปใช้แก้วใสแทน เพื่อให้เห็นการเเยกชั้นระหว่างไอศกรีม และกาแฟ เหมือนให้ผู้ดื่มได้ชื่นชมงานศิลปะจากกาแฟอีกหนึ่งชิ้น เป็นศิลปะที่ทั้งมีรสชาติ มีกลิ่น และสามารถทานได้ หลังจากนั้นก็มีการนำแก้วหลากหลายรูปแบบมาประยุกต์ใช้กับเมนูนี้ ทั้งแก้วไวน์ แชมเปญ หรือวิสกี้ เป็นต้น
เมื่ออ่านกันจนจบแล้ว คงจะเห็นภาพ และพอจะเข้าใจในรสชาติของ อัฟโฟกาโต้ กันขึ้นมาบ้างแล้ว ถึงแม้ร้านกาแฟในไทยจะไม่ค่อยนิยมกันมากนัก แต่บางร้านก็มีเมนูนี้ขึ้นมากันบ้างแล้ว เป็นอีกเมนูหนึ่ง ที่อยากให้คอกาแฟสายหวาน ได้ลองชิม ลิ้มรสกัน และนอกจากนี้ยังมีการปรับสูตรให้ถูกปาก และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นอีกด้วย อย่าลืมไปหาทานกันนะ เพราะเป็นอีกเมนูหนึ่ง ที่ได้ทั้งเครื่องดื่ม และของหวาน ช่วยคลายร้อนในฤดูร้อนตอนนี้ ได้เป็นอย่างดีเลย