สายพันธุ์กาแฟ (ย่อย) ยอดนิยม คุณอาจจะเคยได้ยินสายพันธุ์ว่า กาแฟมีอยู่ด้วยกัน 3 ถึง 4 ชนิด เช่น โรบัสต้า อาราบิก้า และอื่น ๆ แต่ที่เราจะพูดถึงกันวันนี้ก็คือ สายพันธุ์ ย่อย ของกาแฟ อาราบิก้า ที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งเราเรียกสายพันธุ์กาแฟที่มากมายนี้ว่า Variety 

แต่ละ Variety นั้น มีความแตกต่างกัน ทั้งเรื่องลักษณะทางกายภาพภายนอก และองค์ประกอบภายใน รวมทั้งในเรื่องของ รสชาติ อีกด้วย

กาแฟบางสายพันธุ์นั้น มีลักษณะเป็นต้นเตี้ย และพุ่ม บางต้นมีลักษณะสูงเรียว แม้แต่ผลเชอร์รี่กาแฟ ก็อาจจะมีสี และขนาดที่แตกต่างกัน

วันนี้ เราจะมาเรียนรู้ และทำความรู้จักกับคุณสมบัติ และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสายพันธุ์ย่อย ของกาแฟอาราบิก้าเหล่านี้ ที่เป็นที่นิยมกัน ทั้ง 6 สายพันธุ์

ก่อนอื่น เราจะมาทำความเข้าใจเบื้องต้นกันก่อน ถ้าหากเราพูดถึงสปีชีส์ เช่น อาราบิก้า หรือโรบัสต้า เราจะเรียกกันว่า ชนิด และถ้าหากพูดถึง Variety หรือความหลากหลายของชนิดนั้น ๆ เราจะเรียกกันว่า สายพันธุ์ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และเข้าใจตรงกัน

การจำแนก สายพันธุ์กาแฟ (ย่อย)

เชอร์รี่กาแฟ หรือกาแฟนั้น มีอยู่ด้วยกันมากมายหลาย 100 ชนิด แต่ประมาณ 70% ของการผลิตกาแฟทั้งโลก จะใช้กาแฟอาราบิก้า ถึงแม้ว่าต้นกาแฟอาราบิก้านั้น จะมีค่อนข้างมีความอ่อนแอ และทนทานน้อยกว่าต้นกาแฟโรบัสต้า 

แต่ในทางกลับกัน ก็เป็นเมล็ดกาแฟที่มีกลิ่นหอม และรสชาติดี ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ สนใจ และชื่นชอบกาแฟอาราบิก้ามากกว่ากาแฟโรบัสต้า และกาแฟอาราบิก้านี้ ก็มีสายพันธุ์แยกย่อยออกไปมากมาย 

ถ้าหากเทียบกับอัตราส่วนของกาแฟอาราบิก้า และโรบัสต้าแล้ว ในแต่ละพื้นที่จะมีการปลูกกาแฟอาราบิก้าในจำนวนน้อยกว่า และมีตลาดขายเฉพาะ เพื่อส่งออกไปขายในต่างประเทศ หรือในบางประเทศ ก็มีแค่การบริโภคกันเพียงภายในเท่านั้น

ซึ่งหมายความว่า ผู้ผลิตกาแฟ จะเลือกกาแฟมาปลูกในพื้นที่ แต่ละพื้นที่แค่ 1 สายพันธุ์เท่านั้น เพราะ ปัจจัย 2 อย่างนี้ คือ อย่างเรื่องแรกก็คือ โปรไฟล์รสชาติ คือ สิ่งที่ผู้ผลิตต้องการจากกาแฟ ปัจจัยที่สอง ก็คือ สภาพแวดล้อมของสถานที่ปลูก ว่าเหมาะสมกับกาแฟแต่ละสายพันธุ์มากน้อยแค่ไหน 

สิ่งที่สำคัญมาก ๆ อีกอย่างหนึ่ง คือ ผู้ปลูกต้องเข้าใจ และรู้จักกาแฟสายพันธุ์นั้น ๆ อย่างลึกซึ้ง ทำความเข้าใจในเรื่องสายพันธุ์กาแฟ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างการกลายพันธุ์เกิดขึ้น  หรือเกิดการปะปนกับกาแฟสายพันธุ์อื่น ๆ นอกจากนี้ ยังในเรื่องของล็อตการผลิตด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า กาแฟแต่ละล็อตจะไม่มีการปะปนกันเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะนำมาสู่การทำให้รสชาติของกาแฟที่ไม่นิ่ง ทำให้รสชาติของกาแฟ ในกระบวนการสุดท้ายออกมาไม่ค่อยดี ซึ่งจะส่งผลให้คะแนนการ cupping ต่ำกว่ามาตรฐานอีก

เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับกาแฟแต่ละสายพันธุ์ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจึงได้รวบรวมกาแฟชนิดอาราบิก้า 6 สายพันธุ์หลัก ๆ ที่เรามักจะได้ยินชื่อคุ้นหูกัน โดยกาแฟที่เราจะมาทำความรู้จักกัน เป็นกาแฟจากประเทศปานามา เมือง Boquete ซึ่งปลูกอยู่ในระดับความสูงที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ช่วง 1,300-1,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ลักษณะของกาแฟ ที่จะนำมาพูดคุยกันนี้ เป็นกาแฟที่ปลูกในพื้นที่เฉพาะ เพราะฉะนั้น จะไม่ได้เหมารวม เพื่ออ้างอิงถึงกาแฟสายพันธุ์เหล่านี้จากแหล่งทั้งหมดทั่วโลก เพราะ แม้แต่กาแฟสายพันธุ์เดียวกัน แต่ปลูกในที่ ที่ต่างกัน ก็มีความแตกต่างกัน 

ลักษณะทางกายภาพ หรือลักษณะที่ใช้สังเกตภายนอกจากต้นเชอร์รี่กาแฟ ( phenotype) ที่ใช้ระบุตัวลักษณะของพืชต่าง ๆ จะมี ดังนี้

ในกาแฟแต่ละสายพันธุ์นั้น จะมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ทั้งลักษณะภายนอกที่สังเกตเห็นได้ และภายใน รวมถึงรสชาติอีกด้วย บางสายพันธุ์ จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนแบบเห็นได้ชัด แต่ในบางสายพันธุ์ก็มีคุณลักษณะเหมือนกัน มาดูกันว่า สายพันธุ์กาแฟ (ย่อย) ยอดนิยม มีอะไรกันบ้าง

Typica

กาแฟสายพันธุ์ Typica จะมีลักษณะที่แตกต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ อย่างมาก จึงง่ายต่อการระบุถึงสายพันธุ์นี้ ลักษณะที่โดดเด่น คือ ระยะห่างระหว่างกิ่ง กิ่งก้านด้านข้างจะทำมุมอยู่ที่ 50-80 องศา และระยะห่างระหว่างกิ่งย่อยบนกิ่งเดียวกันมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ลำต้นเป็นทรงกรวย แนวตั้ง ก้านแนวตั้ง บริเวณลำต้น และบริเวณกิ่งก้านจะมีความหนาไม่มากนัก และสามารถสูงได้ประมาณ 5 เมตร 

ส่วนใบมีผิวที่เรียบกว่า มีขอบเป็นคลื่นน้อยกว่า และผลจะยื่นออกไปนอกลำต้น ส่วนปลายของใบจะมีสีบรอนซ์เมื่อยังเป็นต้นอ่อนอยู่ ผลเชอร์รี่ของ Typica นั้นจะมีลักษณะค่อนข้างเรียว เมื่อสุกแล้วจะเป็นสีแดงสด

Bourbon

ลักษณะลำต้นของ Bourbon จะสูงและเป็นทรงกรวย คล้ายกับ Typica ส่วนบริเวณกลางลำต้น ซึ่งเป็นลำต้นหลักจะมีขนาดใหญ่กว่า แต่จะเตี้ยกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้จะมีกิ่งรองมากกว่า ระยะห่างระหว่างกิ่ง และกิ่งย่อยนั้นนั้นจะสั้นกว่า Typica เล็กน้อย และกิ่งก้านจะดูหนากว่า ลำต้นจึงแข็งแรงกว่า ด้วยความหนาแน่นที่มากกว่านี้เอง ทำให้ Bourbon มีผลผลิตมากกว่า Typica อยู่ที่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ย

ลักษณะใบของสายพันธุ์นี้ จะกว้างกว่า Typica ใบอ่อนส่วนมากจะเป็นสีเขียว แต่อาจจะมีบ้างที่ปลายใบมีสีบรอนซ์ และมีผิวเป็นหลุมเป็นบ่อ มีขอบใบเป็นคลื่น ผลเชอร์โรี่จะมีลักษณะกลม และผลเมื่อสุกจะมีตั้งแต่เหลือง ส้ม และแดง ถึงจะมีสีแตกต่างกัน แต่ไม่มีความแตกต่างในเรื่องรสชาติ

Caturra

Caturra เป็นการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติ ของสายพันธุ์ Bourbon สายพันธุ์นี้นั้นนับว่าเป็นกาแฟสายพันธุ์ที่เป็นลูกหลานของ Typica และBourbon โดย ทำให้มีลักษณะแคระแกรน ลักษณะลำต้นสั้น และหนาแน่นกว่าสายพันธุ์ Bourbon และ Typica มาก นอกจากนี้ ยังมีกิ่งรองมีมากกว่า และระยะห่างระหว่างกิ่งก้านบนลำต้นน้อยกว่า ทำให้มีลักษณะเป็นไม้พุ่มมากกว่า Typica และ Bourbon

ลักษณะใบ และผล ก็จะมีความคล้ายกับ Bourbon แต่ Caturra จะมีปลายใบมีสีเขียว ใบใหญ่ ขอบใบเป็นหยัก ผลเชอร์รี่มีขนาดปานกลาง ลักษณะกลม เมื่อสุกแล้วจะเป็นสีเหลือง และสีแดง

Catuai

Catuai นั้น เป็นกาแฟสายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง Caturra และ Mundo Novo เหมือนกับที่ Caturra เป็นการกลายพันธุ์ โดยธรรมชาติของ Bourbon และกาแฟสายพันธุ์ Mundo Novo ก็เป็นการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติของ Typica เช่นเดียวกัน 

เพราะฉะนั้น สายพันธุ์ Catuai จึงมีลักษณะที่ได้รับการถ่ายทอดลักษณะมาจาก Bourbon และ Typica แบบเต็ม ๆ

ในส่วนของลำต้นนั้น จะค่อนข้างสั้น และกิ่งก้านค่อนข้างทำมุมใกล้เคียงกับกิ่งหลัก ไม่ค่อยเห็นกิ่งรอง ทำให้ Catuai นั้นมีลักษณะคล้ายกับร่ม แทนที่จะเป็นรูปทรงกรวยเหมือนกับ Bourbon และ Typica

ใบของตัวสายพันธุ์นี้ มีปลายสีเขียว แต่ก็มีสีบรอนซ์บ้าง และลักษณะเป็นคลื่น ผลเชอร์รี่นั้นค่อนข้างแข็งแรง ติดแน่นอยู่กับกิ่ง ดังนั้น Catuai นี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดี ที่จะปลูกในพื้นที่ ที่มีฝนตก และลมแรง และยังเป็นสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง ผลเชอร์รี่เมื่อสุกแล้วมักเป็นสีเหลือง หรือสีแดง จะมีขนาดปานกลาง ส่วนผลเป็นที่สีส้มก็มีเช่นเดียวกัน แต่ค่อนข้างจะเห็นได้ยาก

Pacamara

Pacamara เป็นลูกผสมระหว่าง Maragogipe และ Pacas ถูกสร้างขึ้นโดยสถาบัน Salvadoran Institute for Coffee Research (ISIC) ในปี ค.ศ.1958 

Pacamara ก็ยังถูกปลูกกันอย่างแพร่หลาย ถึงแม้ว่าสายพันธุ์นี้ จะเป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่ค่อยนิ่งมากนัก ซึ่งหมายความว่า พันธุกรรมที่เกิดขึ้นในรุ่นหนึ่ง จะไม่ถูกถ่ายทอดไปยังอีกรุ่นหนึ่ง

และสายพันธุ์ Pacas ก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่ได้กลายพันธุ์ออกมาจาก สายพันธุ์ Bourbon และ สายพันธุ์ Maragogipe เองนั้น ก็เป็นการกลายพันธุ์ออกมาจาก Typica 

สายพันธุ์ Maragogipe เป็นสายพันธุ์กาแฟที่ให้ผลเชอร์รี่ขนาดใหญ่มาก ซึ่งสิ่งนี้ส่งต่อไปยัง Pacamara ทำให้มีขนาดของผลเชอร์รี่ใหญ่มากด้วยเช่นเดียวกัน มีลักษณะของใบที่ค่อนข้างโดดเด่นต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ  คือจะที่ปลายใบจะค่อนข้างแหลม มีใบทั้งสีเขียว และสีบรอนซ์

ลักษณะลำต้นของ Pacamara จะไม่สูง และไม่เตี้ยจนเกินไป ลำต้น และกิ่งก้านมีลักษณะคล้ายกับ Bourbon คือมีความหนา ระยะระหว่างกิ่งและกิ่งย่อยค่อนข้างสั้น รูปร่างเป็นทรงกรวย ทำให้ดูเป็นไม้พุ่ม และมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ

Geisha/Gesha

มาถึงพันธุ์กาแฟยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็น่าจะรู้จัก กับกาแฟ Geisha หรือ Gesha เป็นสายพันธุ์ที่มีรูปร่างสูง ลำต้นและกิ่งบาง คล้ายกับตัว Typica มีระยะระหว่างกิ่งและกิ่งย่อยค่อนข้างกว้าง กิ่งก้านทำมุม อยู่ที่ 45-50 องศา 

ใบจะมีความยาว และเรียบ ส่วนตัวผล คล้ายกับ Typica คือมีความเรียว แต่ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คือ สายพันธุ์ Gesha จะมีรูปร่างคล้ายกับร่ม ลำต้นจะค่อนข้างสูง แต่ สายพันธุ์ Typica จะมีรูปทรงกรวย 

ผลเชอร์รี่สุกที่ได้จาก สายพันธุ์ Geisha นั้น จะมีรสชาติที่โดดเด่นแตกต่างจากสายพันธุ์อื่นอย่างมาก โดยจะให้องค์ประกอบของดอกไม้คล้ายกับดอกมะลิ ที่มีความโดดเด่น และกลิ่นซิตรัส มีความหวาน

นอกจากนี้ ยังมีกาแฟสายพันธุ์อื่น ๆ อีกมากมายหลากหลายร้อยพัน ที่แตกต่างกันไป ไม่เพียงแต่เรื่องรสชาติเท่านั้น ยังมีเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ เพียงเล็กน้อย หรืออาจจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ที่สามารถพบเห็นได้ 

ในทุกวันนี้กาแฟได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และก็ยังคงมีการศึกษา เสาะหากาแฟสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่ปรับปรุงจุดเด่น และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของตัวเดิมมา เพื่อให้ได้กาแฟที่ดีที่สุดเรื่อย ๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *