ยุคทองของกาแฟ และอุตสาหกรรมกาแฟ  ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน กาแฟ ได้เดินทางมาไกลมาก เราไม่ได้แค่ดื่มกาแฟ เพราะ กาแฟให้ประโยชน์ หรือเพื่อแค่ให้ความสดชื่น รู้สึกมีเเรงไปทำงาน หรือเราดื่ม แค่เพราะอยากดื่ม หรือ กำลังซึมซับรสชาติของกาแฟ

มีผู้หลงรักกาแฟเป็นเวลานานกว่า หลาย 100 ปีแล้ว แต่ช่วงเวลาที่เห็นชัดที่สุดแค่ไม่นานมานี้ อาจจะเเค่สองถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งถือว่า เป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตของกาแฟ และเป็นวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมกาแฟ

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่อง ยุคทองของกาแฟ หรือที่เรียกกันว่า Wave Coffee ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ เรื่องราวของกาแฟ ที่มีผลกับคนเรา ประสบการณ์เหล่านี้ ได้พัฒนามาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีหลังที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะกับ คอกาแฟ ที่เครื่องดื่มชนิดนี้ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยที่เราอาจไม่รับรู้ถึงมันเลย

จะพูดรวมถึง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ เช่นว่า เรื่องกรรมวิธีการผลิต เรื่องคุณภาพของเมล็ดกาแฟ และรวมถึงองค์ประกอบต่าง ๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ เช่น วิธีการจัดเก็บกาแฟ และเมื่อเรารับรู้ได้ถึงความต่าง และเปลี่ยนไปทีละเล็กทีละน้อยนี้ ในอุตสหกรรมของกาแฟ คุณจะได้เห็นถึงวิวัฒนาการของกาแฟ ยังรวมถึงทิศทางของกาแฟ ว่าสามารถไปต่อได้ และยังทำให้คุณเข้าใจถึงกาแฟมากขึ้น ทั้งเรื่อง กระบวนการทำงาน ตั้งแต่โรงคั่วกาแฟ จนถึงหน้าร้านกาแฟเลยทีเดียว

ยุคทองของกาแฟ จนถึงปัจจุบันจะแบ่งออกได้เป็น 3 ยุค 

ยุคทองของกาแฟ ที่ 1 : First Wave of Coffee

ในยุคนี้ ยังคงเป็นสินค้าชนิดหนึ่ง แค่เพื่อการบริโภคเท่านั้น ไม่ได้มีความพิเศษอะไร แค่เพื่อการผลิตมาให้ผู้ที่ดื่มกาแฟ ไม่ต่างจากน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น  Green Mountain Coffee, Maxwell House หรือThink Folgers และรวมถึงอีกหลาย ๆ แบรนด์ ที่ไม่ได้เน้นเรื่องคุณภาพเลยในตอนนั้น

เพราะกาแฟในยุคนี้ ไม่ได้เน้นถึงเรื่องของคุณภาพ แต่ละแบรนด์จึงไม่ได้มีการแข่งขันกันในเรื่องของคุณภาพ ไม่ได้พูดถึงความพิเศษ แต่มีเรื่องน่าสนใจก็คือ ยุคแรกของกาแฟนี้ มีผู้คนมากมาย ที่ไม่รู้ว่ากาแฟที่ดื่มกัน ทำจากเมล็ดพืชจริง ๆ 

ยุคแรกของกาแฟนี้ กาแฟยังคงเป็นแค่ “อุตสาหกรรมกาแฟ” ไม่ใช่ “ไร่กาแฟ” อย่างปัจจุบันนี้ แทบจะไม่มีการให้ความสำคัญกับกาแฟ ว่ามีเมล็ดพันธุ์จากไหน กาแฟนี้มีที่มายังไง หรือปลูกที่ไหน และไม่ได้มีข้อมูลบอกผู้ที่ดื่มกาแฟเลยว่ากระบวนการแปรรูป หรือกว่าจะมาเป็นกาแฟนั้นเป็นอย่างไร และเน้นไปที่เรื่องความสะดวกสบายเป็นหลัก 

ยุคทองของกาแฟที่ 2 : Second Wave of Coffee

มาถึงยุคที่ 2 มีร้านกาแฟแบรนด์ดัง ที่ต้องกล่าวขอบคุณ คือ Caribou Coffee และStarbucks ที่วางธรรมเนียมปฏิบัติว่าร้านกาแฟ ควรเป็นแบบไหน เริ่มต้นกันที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา ก็แพร่ไปทั่วโลก และทำ 2 หน้าที่ คือ ทั้งเป็นคนคั่วกาแฟ และขายกาแฟ ปลุกเร้าให้วงการกาแฟนี้ มีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อต้นปลายศตววรษที่ 20 ผู้คนที่ดื่มกาแฟไม่เพียงแต่เน้นความง่าย แต่ยังได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น 

วัฒนธรรมนี้ ได้เเพร่กระจายไปทั่วโลก ได้เริ่มมีการสำรวจ และสัมผัสรสชาติกาแฟ ในแบบที่แตกต่างออกไปมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ให้ผู้ที่ดื่มกาแฟ สัมผัสกับประสบการณ์ของกาแฟ หรือเข้าใจกาแฟนั้นอย่างแท้จริง ร้านกาแฟชื่อดัง อย่าง Starbucks ได้เปิดตัวกาแฟ “specialty coffee drinks” ในประเทศสหรัฐอเมริกา กาแฟตัวนี้ จะเป็นการนำเอสเพรสโซช็อต กับไซรัป และส่วนผสมอื่น ๆ เข้าไป โดยที่ยังไม่ได้รู้ และเข้าใจเกี่ยวกัยกาแฟนั้นจริง ๆ แต่เป็นเพียงแค่การสร้างสรรค์เครื่องดื่มแบบใหม่ต่างจากกาแฟแบบเดิม ๆ ตามแต่ความคิด และอารมณ์ของบาริสต้า 

หลังจากนั้นจึงเริ่มมีการให้ความรู้เกี่ยวกับกาแฟตัวนั้น ๆ เกี่ยวกับกาแฟบ้างเท่านั้น บาริสต้า เริ่มสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง แต่ยังเป็นเพียงสูตรทั่ว ๆ ไป ไม่ได้มีความพิเศษ หรือสามารถพูดได้ว่า กาแฟเหล่านี้ ไม่ได้สะท้อนตัวตนของบาริสต้าออกมาแบบเฉพาะเจาะจงนั่นเอง

แต่วิธีการนี้ ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในกาแฟมากขึ้น เพียงเท่านั้นก็แตกต่างจากกาแฟขม ๆ ทั่วไปที่ไม่มีมิติ จืดชืด แบบกาแฟยุคแรกมาแล้ว คาดกันว่าเริ่มมีเมนูสร้างสรรค์เมนูกาแฟ เช่น ลาเต้ มอคค่า คาปูชิโน และเมนูกาแฟอื่น ๆ อีกมากมาย เมนูเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นในยุคนี้ก็เป็นไปได้

ยุคทองของกาแฟ ที่ 3 : Third Wave of Coffee

ในยุคนี้ กาแฟเริ่มพัฒนามาสักพักแล้ว แต่เริ่มชัดเจนขึ้นในผู้หลงรักกาแฟ ในช่วงปี 1980 โดยที่จะเน้นไปที่ เรื่อง เมล็ดกาแฟ โดยเริ่มจากการทดลองหลาย ๆ อย่างกับเมล็ดกาแฟ โดยกลุ่มผู้คั่วกาแฟ และร้านกาแฟเล็ก ๆ ตั้งแต่เรื่องของการคั่ว การใช้คงามร้อน และระยะเวลาที่แตกต่างกัน ทำให้เมล็ดกาแฟเหล่านั้น มีรสชาติที่ไม่เหมือนกัน และกาแฟที่ได้นำมาทดลอง ก็ได้ดูแลมาอย่างดี

ในปี 1982 ได้เริ่มมีการก่อตั้ง สมาคมกาแฟพิเศษแห่งสหรัฐอเมริกา (SCAA) เพื่อเป็นเวทีสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องการคั่วกาแฟ และเป็นห้องทดลองกาแฟ ทำกาแฟแบบใหม่ ๆ  ในตอนนี้เอง วัฒนธรรมกาแฟได้กระจายไปทั่วโลก เริ่มจาก แคนาดา ออสเตรเลีย และส่งต่อจนถึงสแกนดิเนเวีย หรือทวีปยุโรปเหนือ

อุตสาหกรรมกาแฟเล็ก ๆ นี้ ได้เริ่มมีการเติบโต และพัฒนาขึ้นไปอีกในไม่กี่ทศวรรษถัดมา ที่เรียกกันว่า “third wave of coffee” ก็เกิดขึ้นมาก็ในช่วงปี 1999 และได้กลายมาเป็นเทรนด์ และแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างด้วยระยะเวลาสั้น ๆ 

ผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงกาแฟ ว่ามีมากกว่าแค่รสชาติขม ๆ กับการดื่มแล้วรู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า เรียกได้ว่ายุคทองของกาแฟที่แท้จริงได้เริ่มขึ้นแล้ว หลาย ๆ คนมีการขนานนาม หรือเรียกยุคนี้ว่า “ยุคเรเนสซองส์แห่งกาแฟ”

ที่จริงแล้ว การก้าวเข้าสู่ยุคนี้ของกาแฟนั้น ค่อนข้างเร็ว แต่ผู้คนไม่เรียกกันว่า “third wave coffee” แต่จะเรียกกันในอุตสาหกรรมกาแฟทั่ว ๆ ไปว่า “specialty coffee” และกลายเป็นอุตสาหกรรมย่อยของกาแฟ นอกจานี้ยังเป็นยุคที่อุตสาหกรรมกาแฟ เติบโตมากขึ้นที่สุดยุคหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา และถือว่ามากที่สุดอันหนึ่งของโลกด้วย

เริ่มมีงานแสดงกาแฟที่สำคัญของโลก มีตั้งแต่ การประกวดแข่งขันกาแฟชั้นเยี่ยมต่าง ๆ ของผู้คนที่ศึกษาเรื่องของเมล็ดกาแฟ และหลงรักในกาแฟ ไม่ใช่เพียงแต่ร้านกาแฟ หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ในร้านกาแฟ เริ่มมีการดูว่าเมล็ดกาแฟเป็นสายพันธุ์ไหน คั่วระดับไหนที่จะถูกใจตัวคุณ หรือเมล็ดกาแฟนั้น ๆ ต้องปลูกจากแหล่งไหน และเริ่มมีการหันมาชงกาแฟดื่มกันเยอะมากขึ้น และก็มีวิธีการชงหลากหลายรูปแบบผู้คนศึกษาในเรื่องของเมล็ดกาแฟ กันอย่างหลากหลาย และอโรมาในกาแฟก็เป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้ง บอดี้ บาลานซ์ แอซิดิตี้ และอีกมายมายหลายเรื่องที่ต้องศึกษา และใช้ประสบการณ์ในการดื่มกาแฟเหล่านั้นมากขึ้น 

กว่าจะมาเป็นอุตสาหกรรมกาแฟ ในทุกวันนี้

กว่าที่กาแฟจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ ต้องผ่านอะไรต่าง ๆ มามากมาย เริ่มจากการเป็นอุตสาหกรรมกาแฟเพียงแค่เพื่อการบริโภค หรือเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง จนทุกวันนี้กลายเป็นการดื่มด่ำ และสัมผัสกับรสชาติของกาแฟ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวของคุณเอง จะว่าเป็นเวลาที่นานก็ได้ หรือจะว่าไม่นานก็ได้เหมือนกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การรู้เรื่องเกี่ยวกับกาแฟที่คุณดื่มไว้บ้าง ก็เป็นเรื่องที่ดี เมื่อเราเข้าใจภาพรวมของกาแฟแล้ว อาจจะทำให้เรามีความเข้าใจกาแฟมากขึ้น และดื่มมันอย่างรู้รสชาติจริง ๆ ว่ากว่าจะมาเป็นกาแฟหนึ่งแก้วให้คุณดื่ม ล้วนแล้วต้องผ่านอะไรมามากมาย และมีเรื่องราวมายาวนาน และหลังจากนี้ ขอให้คุณดื่มกาแฟได้อย่างมีความสุขมากขึ้น 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *