ดัลโกน่าคอฟฟี่ (Dalgona Coffee) หรืออีกชื่อคือ ทัลโกนา เมนูกาแฟที่เป็นเทรนด์ใหม่ มีต้นกำเนิด ที่ประเทศเกาหลีใต้ กาแฟที่มาแรง และเป็นกระแสในโซเชียล ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง กระแสไม่เคยตกหายไป และมีการทำรีวิวในโลกออนไลน์ ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ
แถมกลายเป็นเมนูปักธง ของร้านกาแฟจำนวนไม่น้อยเลย อีกทั้ง แตกสูตรใหม่ ๆ ออกมาได้มากมายนับไม่ถ้วน สามารถเทียบเคียง เมนูยอดนิยมอย่าง คาปูชิโน ลาเต้ หรือมอคค่า
“ทัลโกนา” เป็นขนมหวานพื้นเมือง ของเกาหลี ที่ทำมาจากน้ำตาลทราย กับน้ำเปล่า และเติมเบคกิ้งโซดาเล็กน้อย ค่อย ๆ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นน้ำตาลหนืด ๆ ก่อนจะเทลงบนถาด รอให้เย็นตัว จึงเสียบไม้เข้าไป รสชาติจะคล้าย ๆ คาราเมล
กาแฟดัลโกน่า เป็นกาแฟที่ดัดแปลงมาจากวิธีทำขนมดัลโกน่า คือ นำผงกาแฟสำเร็จรูป น้ำตาลทราย และน้ำต้มสุก ในปริมาณที่เท่ากัน มาตีให้กลายเป็นฟองโฟมนุ่ม จากนั้นจะตักราดลงบนแก้ว ใส่นม และน้ำเเข็ง หน้าตาของกาแฟดัลโกน่า จะเป็นกาแฟที่มีนมสีขาวอยู่ข้างล่าง และมีฟองกาแฟสีน้ำตาล ราดอยู่ข้างบน
ดัลโกน่าคอฟฟี่ มีชื่อเรียกมากมายในบ้านเรา ทั้งกาแฟวิปครีม กาแฟครีมเกาหลี กาแฟฟองนม หรือกาแฟครีมนมสด เมนูนี้เหมาะสำหรับคอกาแฟสายหวาน หรือผู้ที่ชื่นชอบกาแฟผสมนม มีทั้งการเสิร์ฟแบบร้อน และเย็น ดัลโกน่าคอฟฟี่ กาแฟที่กรุ่นกลิ่น หอมหวานจากนม รสชาติหวานมัน และมีบอดี้ที่เข้มข้นของกาแฟ ถ้าหากใครได้ลอง รับรองไม่มีผิดหวัง
วิธีการทำดัลโกน่าคอฟฟี่
วิธีทำหรือสูตร สามารถทำได้ง่าย ๆ ส่วนใหญ่นิยมทำกันตามสูตร คือ กาแฟอินสเเตนท์ หรือกาแฟผงสำเร็จรูป จะเป็นคั่วกลาง หรือคั่วเข้มก็ได้ ตามด้วยน้ำตาลทราย จะเป็นน้ำตาลทรายขาว หรือน้ำตาลทรายแดงก็ได้ และน้ำร้อน นำส่วนผสมทั้งสาม มาตีให้เข้ากัน เป็นครีมเนียนนุ่ม คล้าย ๆ วิปครีม จากนั้น นำไปหยอดลงบนแก้ว ที่ใส่นมสด ถ้าใครชอบแบบเย็น ก็ใส่น้ำแข็งก้อนก่อน
แล้วจะกลายเป็น เครื่องดื่มที่มี สองเลเยอร์ ดูสวยงามชั้นนมสีขาวอยู่ข้างล่าง และครีมกาแฟสีน้ำตาลอยู่ข้างบน
หลัก ๆ จะเห็นได้ว่า กาแฟดัลโกน่า จะแบ่งเป็น สองขั้นตอน คือ การเตรียมครีมกาแฟ และการเตรียมนมสด
นับตั้งแต่ที่กาแฟดัลโกน่า ได้รับความนิยม กาแฟจากเกาหลี เมนูนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนไปตามรสนิยม ของผู้ดื่มกาแฟ เช่น ราดด้วยท็อปปิ้งช็อคโกแลต คาราเมล น้ำผึ้ง หรือบิสกิต ความกรุบกรอบ จะช่วยเพิ่มอรรถรสของการดื่มกาแฟ อีกทั้งส่วนผสมหลักดั้งเดิม ก็เปลี่ยนรูปแบบไป เช่น จากกากแฟผงสำเร็จรูป ไปใช้เอสเพรสโซ หรือกาแฟสกัดเย็นแทน จากนมวัว ก็ปรับเปลี่ยนไปเป็นนมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง หรือนมเเมคคาเดเมีย
มีอีกเคล็ดลับมาฝาก วิธีที่เราใช้ดูครีมกาแฟ ว่าเหนียวพอดี หรือไม่นั้น ให้ยกถ้วย หรือภาชนะที่ใช้ปั่นครีม คว่ำลง หากครีมไม่ไหลลงมา ก็แปลว่า ใช้ได้แล้ว ตัวครีมกาแฟ สามารถใช้ถุงบีบครีม หรือที่บีบหน้าเค้ก เพื่อให้ได้รูปทรงครีมที่สวยงาม แทนการตักด้วยช้อน
หลาย ๆ คนก็บอกกันมาว่า กาแฟดัลโกน่า คล้ายคลึงกับกาแฟลาเต้ของอินเดีย และปากีสถาน ที่เรียกกันว่า Phitti Hui Coffee และนอกจากนี้ยังคล้าย ๆ กับ Frappe Coffee เมนูกาแฟจากประเทศกรีซ และ Cafe Batido ของชาวอเมริกาใต้ เช่นเดียวกัน
วันนี้เรามีอีกเคล็ดลับมาแนะนำ คือ การทำกาแฟดัลโกนา แบบสุขภาพดี
ถ้าลองสังเกตดี ๆ ส่วนผสมเดิมของกาแฟดัลโกน่า อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เพราะ ถือว่าเป็นเมนูที่ใช้ปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง จนเกินปริมาณร่างกายวันหนึ่งควรได้รับ การกินน้ำตาลในปริมาณที่มาก ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคได้ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคหลอดเลือด และหัวใจ
วิธีการก็คือ ใช้นมวัวที่มีไขมันต่ำ หรือนมวัวที่ไม่มีน้ำตาล สามารถใช้นมจากพืช เช่น นมข้าวโอ๊ต นมถั่วเหลือง นมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือนมอัลมอนด์ หรือ การใช้น้ำตาลมะพร้าว แทนน้ำตาลทรายขาว เพราะมีไฟเบอร์ และยังดีต่อสุขภาพ หรือจะใช้สารให้ความหวานแทน เช่น น้ำตาลหญ้าหวาน หรือน้ำตาลหล่อฮั้งก๊วย เป็นต้น ทีนี้ดัลโกน่าคอฟฟี่ ก็จะกลายเป็นเมนูเฮลธ์ตี้ขึ้นทันที
ดัลโกน่าคอฟฟี่ จากเมนูที่เป็นไวรัล ในโลกโซเชียล กลายเป็นเมนูหลักในร้านกาแฟหลาย ๆ แห่ง ด้วยคอนเซปท์ หาส่วนผสมไม่ยาก ทำง่าย รสชาติอร่อย แถมยังมีความแปลกใหม่ คอกาแฟหลายคน จึงอยากจะลองลิ้มชิมรสสักครั้ง จนสุดท้ายก็กลายเป็นเมนูกาแฟครองใจคอกาแฟได้ไม่ยากเลย