ข้อเสียของการดื่มกาแฟ ที่หลาย ๆ คนอาจนึกไม่ถึง หลาย ๆ คน คงจะมีกาแฟ เป็นเครื่องดื่มในดวงใจ บางคนอาจะชื่นชอบการดื่มกาแฟ จนเรียกได้ว่า เสพติดกาแฟ ทุกวันต้องได้ดื่มกาแฟ ถ้าวันไหนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟนั้น จะรู้สึกว่าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป แต่รู้กันหรือไม่ว่า นอกจากการดื่มกาแฟจะมีข้อดี การดื่มกาแฟก็ยังมีข้อเสียของการดื่มกาแฟ ที่หลาย ๆ คนอาจนึกไม่ถึง จากการที่ดื่มกาแฟ และได้รับคาเฟอีนมากจนเกินไป
- โอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม ผลจากการวิจัย ศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟมากเกินกว่าระดับคาเฟอีน ที่ควรได้รับในแต่ละวัน มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม และสามารถเกิดซีสต์ ได้มากกว่าคนทั่วไป 2 – 3 เท่า ดังนั้น ปริมาณคาเฟอีนที่ควรได้รับ ไม่ควรเกิน 500 มิลลิกรัม
- ทำให้เด็กเติบโตผิดปกติ หรือแท้ง เมื่อคุณตั้งครรภ์ การดื่มกาแฟที่มากเกิน จะทำให้ทารกที่อยู่ในท้อง เกิดการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ หรือเรียกกันอีกอย่างว่าเพิ่มโอกาสในการแท้งลูกสูงขึ้น ปริมาณคาเฟอีนที่มากจนเกินไป จะส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายในของทารก
- ขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุ คาเฟอีน ที่อยู่ในกาแฟนั้น สามารถขัดขวางการดูดซึมของแร่ธาตุบางชนิด ที่จำเป็นต่อร่างกายของคนเรา เช่น เหล็ก สังกะสี และแคลเซียม เพราะฉะนั้น เด็กวัยกำลังเจริญเติบโต หรือผู้ที่ต้องการให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ไม่ควรที่จะดื่มกาแฟ
- โอกาสเกิดโรคกระดูกพรุน คุณสมบัติบางอย่างของคาเฟอีน กระตุ้นให้เกิดการปัสสาวะเยอะขึ้น เมื่อเราดื่มกาแฟติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้ร่างกายของเรา สูญเสียแคลเซียม ไปกับการปัสสาวะ จนนำมาสู่ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนได้ เพราะฉะนั้น ผู้สูงอายุที่มีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนได้ง่าย ไม่ควรที่จะดื่มกาแฟในปริมาณมากเกินไป
- เกิดอาการประสาทหลอน การที่เราดื่มกาแฟมากจนเกินไป รวมกับที่เรามีเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือนอนหลับอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีความเครียดสะสม จะทำให้อะดรีนาลีนในร่างกายของเรานั้น ถูกปล่อยออกมามากจนเกินไป เกินกว่าที่เราจะสามารถควบคุมได้ จึงทำให้เกิดอาการประสาทหลอนได้
- นอนไม่หลับ เพราะว่า คาเฟอีนในกาแฟ เป็นสารกระตุ้นการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย ถ้าได้รับปริมาณมากจนเกินไป อาจทำให้ร่างกายตื่นตัว และมีอาการนอนไม่หลับ ทำให้พักผ่อนน้อยลงในตอนกลางคืน หลังจากที่ร่างกายได้รับคาเฟอีนเป็นเวลา 10 – 12 ชั่วโมง จนสุดท้ายอาจจะทำให้เกิด ภาวะนอนไม่หลับ (Insomnia)
จากการวิจัยที่ได้ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อ พ.ศ. 2559 ใน เดือนสิงหาคม ได้ศึกษาเกี่ยวกับการนอนหลับในผู้ใหญ่ กับการบริโภคคาเฟอีน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการวิจัยทั้งหมด 80 คน การวิจัย พบว่า กลุ่มที่ดื่มกาแฟในปริมาณ เฉลี่ย 192 มิลลิกรัม ใช้เวลาพักผ่อนน้อยกว่ากลุ่มที่ดื่มกาแฟในปริมาณ เฉลี่ย 125.5 กรัม ซึ่งผลการวิจัย ชี้ให้เห็นว่าปริมาณของกาแฟที่ได้รับส่งผลต่อการนอนหลับ ยิ่งได้รับมาก ก็ยิ่งลดคุณภาพของการนอนหลับ
- มีอาการปวดหัว ภาวะพิษจากคาเฟอีน (Caffeine toxicity) เกิดจากการได้รับปริมาณคาเฟอีนมากจนเกินไป ซึ่งทำให้เส้นเลือดในสมองขยายตัว จนเกิดอาการคลื่นไส้ หรือปวดศรีษะได้ ดังนั้นจึงควรลดปริมาณลง ให้เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายชิน และปรับตัวได้ เกิดการปรับสมดุลของการทำงานของหลอดเลือด และหัวใจที่ปกติ
- ปัสสะวะบ่อย คาเฟอีนที่ได้รับ จะไปกระตุ้นการทำงานของไต ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย ๆ บางครั้งอาจจะปวดแบบฉับพลัน การปัสสาวะบ่อย อาจทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ หากไม่มีการดื่มน้ำทดแทน
- ความดันโลหิตสูง การดื่มกาแฟทำให้ความดันโลหิตสูง และถ้าหากเกิดความดันโลหิตสูงขึ้น แบบเรื้อรัง ก็จะเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือที่เรียกกันว่า “หัวใจวาย” อีกทั้ง คาเฟอีนทำให้เกิดหลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้เลือดเลี้ยงหัวใจ และสมองไม่เต็มที่ ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง โดยอยากยิ่งในผู้ที่บริโภคคาเฟอีน เป็นประจำ
- รู้สึกวิตกกังกล การที่เราดื่มกาแฟ เกินครั้งละ 400 มิลลิกรัม อาจทำให้มีความเสี่ยง ต่อการเกิดอาการวิตกกังวลได้ และถ้าหาก มีภาวะวิตกกังวล (Anxiety Disorders) อยู่แล้ว การได้รับการกระตุ้นจากคาเฟอีนในปริมาณมาก จะทำให้การทำงานของสารเคมีในสมอง ที่ชื่อว่า อะดีโนซีน (Adenosine) ถูกปิดกั้น ทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้า อีกทั้งกระตุ้นการทำงานของอะดรีนาลีน ทำให้ส่งผลต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือด เมื่อสมดุลของสารเคมีเหล่านี้ ได้เปลี่ยนแปลงไป อาจทำให้เกิดอาการกระวนกระวาย และวิตกกังวลหลังจากดื่มกาแฟได้
ข้อควรระวัง ของการดื่มกาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- ไม่ควรดื่มเกินวันละ 4 แก้ว เพราะอาจจะทำให้เกิดความรู้สึก กระวนกระวาย หงุดหงิด มีอาการปวดศรีษะ หัวใจเต้นรัว และเร็วกว่าปกติ อาจจะต้องกลั้นปัสสาวะบ่อย ๆ กล้ามเนื้อกระตุก และในกลางคืนอาจจะมีอาการนอนไม่หลับ
- อย่างที่ได้พูดถึงไป ว่ากาแฟลดการดูดซึมแร่ธาตุสำคัญบางชนิด เช่น แคลเซียม และนอกจากนี้ยังเพิ่มการขับออก ผ่านการปัสสาวะ ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน และผู้สูงอายุ เพราะ แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่สำคัญ มีส่วนช่วยให้กระดูกของเราแข็งแรง
- สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้มีภาวะก่อนเบาหวาน ต้องระวังเป็นอย่างมากที่จะดื่มกาแฟ และเครื่องดื่มมีคาเฟอีน เพราะว่า คาเฟอีน จะไปเพิ่มภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินไม่ดี และส่งผลต่อการควบคุมน้ำตาลในเลือด
แล้วเราควรดื่มกาแฟอย่างไร ? ถึงจะไม่เกิดอันตราย
- โดยปกติแล้ว คนเราจะสามารถดื่มกาแฟ หรือได้รับคาเฟอีนในปริมาณ 200 มิลลิกรัม ต่อ 1 ครั้ง หรือ 400 มิลลิกรัม ใน 1 วัน
- สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ดื่มกาแฟ หรือได้รับคาเฟอีนไม่ควรเกิน วันละ 200 มิลลิกรัม เนื่องจากอาจจะเสี่ยงแท้งบุตร หรือเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด อีกทั้งยังมีผลต่อน้ำหนักของทารกที่จะคลอดอีกด้วย
- ผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน ควรดื่มกาแฟ หรือได้รับคาเฟอีน ไม่เกิน 300 มิลลิกรัม เพราะ จะส่งผลให้ กระดูกสันหลังเสื่อมเร็ว หากได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ และควรเสริมแคลเซียม วันละ 1,000 มิลลิกรัม
- ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน ควรดื่มกาแฟ หรือได้รับคาเฟอีน ไม่เกิน 300 มิลลิกรัม และรับประทานอาหารเสริมที่มีแคลเซียม และอาหารที่มีแคลเซียม เป็นประจำ และควรเสริมแคลเซียม วันละ 1,200 มิลลิกรัม
หลังจากที่ได้อ่าน ข้อเสียของการดื่มกาแฟ ที่หลาย ๆ คนอาจนึกไม่ถึง แล้วก็เกิดความคิดที่ว่า เราควรดื่มกาแฟอย่างไรล่ะถึงจะดี การดื่มกาแฟ ควรดื่มวันละ 1 ถึง 2 แก้ว ในหนึ่งวัน หรือมากสุดไม่ควรเกิน 4 แก้วในหนึ่งวัน และควรเลือกดื่มกาแฟดำ ที่ไม่มีน้ำตาล หรือใช้สารให้ความหวานแทน เลือกใช้นมสด แทนครีมเทียม ไม่ใส่วิปปิ้งครีมในกาแฟ อีกทั้งเรายังสามารถลดปริมาณคาเฟอีนที่เราจะได้รับ จากการลดขนาดของแก้วกาแฟให้เล็กลง เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถดื่มกาแฟ ให้เป็นประโยชน์ได้แล้ว