กาแฟในแบบของแต่ละประเทศ  บางเมนูที่เราได้ยกมาพูดถึงในวันนี้ มีเอสเพรสโซเป็นฐานของกาแฟ แล้วจึงค่อยเติมส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา หรือเป็นกาแฟดำที่ถูกนำมาสร้างสรรค์ต่อยอด เป็นเมนูกาแฟที่แปลกใหม่ และได้กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยม หรือกลายเป็นเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของในแต่ละประเทศ ซึ่งอาจมีการใส่ครีม นม หรือส่วนผสมอื่น ๆ เข้ามา กลายเป็นกาแฟ ที่มีกลิ่น และรสชาติที่พิเศษขึ้นมา

กาแฟในแบบของแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างเช่น

Café au Lait

เมนูกาแฟนี้มีความคล้ายคลึงกับลาเต้เป็นอย่างมาก ซึ่งสูตรกาแฟเมนูนี้ ไม่ตายตัว โดยปกติแล้วลาเต้ จะใช้เอสเพรสโซเป็นฐาน แต่คาเฟ่โอเลต์ จะใช้กาแฟดำเป็นฐานของเมนู ซึ่งมีความเข้มข้นกว่าเอสเพรสโซ ส่วนอัตราส่วนของนม และกาแฟ ส่วนใหญ่จะนิยมใส่ในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กัน แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการได้

Café Viennoise

มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า café Vienne หรือ กาแฟเวียนนา วิธีการทำเริ่มจากใช้เอสเพรสโซ 1 ช็อต หรือ 2 ช็อต แล้วตามด้วยการราดครีมธรรมดา หรือบางครั้งก็ราดวิปครีม และต้องเทด้วยความระวัง เพื่อให้เนื้อครีมลอยอยู่ข้างบนกาแฟอย่างสวยงาม 

Irish Coffee

เมนูกาแฟนี้ ฟังดูคล้ายค็อกเทล มากกว่ากาแฟ ไอริชคอฟฟี่จะทำการใส่วิสกี้ 1 ช็อต ลงไปในกาแฟร้อน และอาจจะเติมน้ำตาล ให้มีความหวานขึ้นเล็กน้อย และราดด้วยวิปครีมลงบนกาแฟอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะว่า ต้องให้ครีมลอยอยู่ด้านบน วิธีการดื่มกาแฟเมนูนี้ก็คือ อย่าคนให้ชั้นกาแฟ และครีมผสมกัน แต่จะค่อย ๆ ดื่มกาแฟร้อน ๆ ที่ผสมไอริชวิสกี้ และครีมเข้าไปพร้อม ๆ กัน โดยที่ยังคงให้วิปครีมอยู่ด้านบน 

กาแฟเย็นสูตรอื่น ๆ

นอกจากนี้ยังมีกาแฟเย็นในรูปแบบอื่น ๆ อีกหลากหลายเมนู หลากหลายสูตร ที่น่าลิ้มลอง ส่วนใหญ่จะเป็นกาแฟขึ้นชื่อ หรือเมนูกาแฟประจำชาติ ที่อาจหาดื่มได้แค่ในพื้นที่นั้น ๆ อย่างเช่น ประเทศไทยของเรา ก็มีสูตรกาแฟโบราณที่หลากหลาย หรือกาแฟที่ได้รับความนิยมอีกอย่างหนึ่งก็คือ กาแฟเวียดนาม โดยปกติแล้วกาแฟเหล่านี้ จะใช้กาแฟ นม หรือครีม และวิปครีม เป็นส่วนประกอบหลัก และค่อยปรับเปลี่ยนอัตราส่วนกันไป หรือมีการเพิ่มบางอย่างเข้ามา ให้เมนูกาแฟนั้น ๆ มีรสชาติ และกลิ่นที่เปลี่ยนไป ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างสรรค์เมนูกาแฟใหม่ ๆ ขึ้นมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *