กาแฟปรุงแต่ง (Infused Coffee) สำหรับคอกาแฟ หลาย ๆ คน คงนึกถึงกาแฟชนิดนี้ ถ้าหากคุณชื่นชอบกาแฟผ่านการปรุงแต่ง คงจะเป็นเรื่องที่ดี ไม่มากก็น้อย ที่คุณจะเข้าใจว่ามันคืออะไร และจะส่งต่อคุณภาพของเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณแบบไหน
สิ่งที่ให้รสชาติในกาแฟกาแฟปรุงแต่ง คืออะไร
มีหลากหลายวิธีการ ที่คุณจะสามารถปรุงแต่งกาแฟ หรือเพิ่มรสชาติ อื่น ๆ ลงไปในกาแฟของคุณได้
- เพิ่มครีมที่มีรสชาติ หรือไซรัป ในกาแฟของคุณ
- บดเครื่องเทศต่าง ๆ เพื่อที่จะผสม กับเมล็ดกาแฟบด ก่อนที่จะนำไปชง
- สำหรับขั้นตอนการคั่วกาแฟ สามารถใส่น้ำมัน หรือสารสกัดต่าง ๆ ลงไปได้
ร้านกาแฟหลาย ๆ ร้าน มักจะใช้วิธีแรกในการปรุงแต่งเมนูกาแฟให้มีความสร้างสรรค์ และรสชาติที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณได้รับกาแฟผ่านการปรุงแต่งในแบบที่แตกต่างออกไปจากร้านอื่น ๆ ในเมนูที่คุณเลือกดื่ม เช่น กาแฟฟักทอง บาริสต้ามักจะเลือกใส่ไซรัป หรือครีมลงไปในกาแฟ หลังจากที่ชงเสร็จแล้ว โดยปกติแล้ว รสชาติเหล่านี้ ประกอบไปด้วย น้ำตาล และไขมัน
หรือ ถ้าหากคุณพบเมล็ดกาแฟ ที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติมาแล้ว นั่นเป็นวิธีสุดท้าย ที่เราได้พูดถึง ยกตัวอย่างเช่น กาแฟปรุงเเต่งด้วยกลิ่นมาร์ชเมลโล่ ปกติกาแฟที่ปรุงแต่งแบบนี้ จะไม่ค่อยใช้รสที่มาจากธรรมชาติ แต่เป็นการที่ฉีดน้ำมันสังเคราะห์กลิ่น ลงไปที่เมล็ดกาแฟ ซึ่งทำให้เมล็ดกาแฟ ดูดซับกลิ่น และรสชาติของน้ำมันได้
โดยปกติ เมล็ดกาแฟที่ปรุงแต่งมาแบบนี้ มักจะเป็นเมล็ดกาแฟคุณภาพต่ำ และการใส่กลิ่นสังเคราะห์ ไม่ได้ช่วยให้คุณภาพของกาแฟดีขึ้น สารเคมีที่ได้ผสมลงไป ทำให้ผู้ที่ดื่มกาแฟหลายคน ต้องงดดื่มกาแฟ และนอกจากนี้ ในร้านสะดวกซื้อ ยังให้กาแฟผ่านการปรุงแต่ง มีอายุได้หลายเดือน หรือมากกว่ากาแฟที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง แต่ในทางที่ดี คุณควรใช้เมล็ดที่มีอายุ 3 ถึง 14 วัน หลังจากการคั่ว การที่ใส่กลิ่นสังเคราะห์ จึงมักเป็นวิธีที่ผู้ผลิต หรือผู้ที่คั่วกาแฟที่จำหน่ายกาแฟเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการนำเมล็ดกาแฟเก่า มาใช้ให้หมด
มีทางที่กาแฟปรุงแต่งจะคุณภาพดีกว่านี้ไหม?
ถ้าหากคุณชอนกาแฟผ่านการปรุงแต่ง ลองเติมเครื่องเทศ ไซรัป หรือครีมแบบที่คุณชอบ ด้วยตัวของคุณเองที่บ้าน ทางเลือกแบบนี้จะทำให้คุณสามารถควบคุมคุณภาพของกาแฟได้ทั้งหมด ตั้งแต่เมล็ด และวัตถุดิบอื่น ๆ ที่คุณเลือกสรรมาใช้ โดยที่คุณจะสามารถบดเครื่องเทศ หรือถั่วชนิดต่าง ๆ ผสมลงไปในผงกาแฟ ก่อนที่คุณจะชงได้ และอยากให้คุณจำไว้ว่า แค่เครื่องเทศเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้รสชาติกาแฟเปลี่ยนไปได้เยอะมาก เพราะฉะนั้นควรเริ่มใส่ปริมาณทีละน้อย ๆ แล้วจึงค่อย ๆ หาอัตราส่วนที่เหมาะสม จนได้กาแฟในแบบที่คุณชอบ นอกจากนี้ คุณควรจะให้ความสนใจกับเมล็ดกาแฟ ในเรื่องของกลิ่น และรสด้วย เพื่อที่คุณจะได้ เลือกส่วนผสมที่สามารถเข้ากับกลิ่น และรสของเมล็ดกาแฟนั้น ๆ ได้อย่างดี ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็เช่น เมล็ดกาแฟ ที่มีกลิ่นของช็อคโกแลต ก็จะเข้ากันได้ดีกับกลิ่น และรสชาติเฮเซลนัท
เช่นเดียวกันกับ คนที่รักการดื่มกาแฟหลาย ๆ คน ที่จะชอบทำไซรัป สำหรับใส่ในกาแฟ ด้วยรสชาติที่พวกเขาชื่นชอบ ด้วยตัวพวกเขาเอง เพราะ พวกเขาจะสามารถควบคุมทั้งรสชาติ ความเข้มข้น และรวมถึงคุณภาพของวัตถุดิบได้อีกด้วย
ควรเลือกเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คุณจะไม่สามารถชงกาแฟที่ดีได้เลย ถ้าคุณไม่มีเมล็ดกาแฟที่ดี เพราะ ถึงแม้ว่าคุณจะปรุงแต่งกาแฟ เพิ่มรสชาติลงไป หรือดื่มแบบไม่ปรุงแต่ง คุณก็ควรจะเลือกใช้เมล็ดกาแฟ ที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้ นอกจากขั้นตอนการคั่วเมล็ดกาแฟ และวิธีการในการเตรียม ที่แตกต่างกัน ก็จะทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติ ที่ไม่เหมือนกัน เมื่อคุณได้เมล็ดกาแฟที่ดีแล้ว คุณก็สามารถทดลองจับคู่กลิ่น และรสต่าง ๆ ได้
สิ่งที่คนนิยม ผสมกับกาแฟ เช่น น้ำส้มคั้นสด หรือน้ำเกรปฟรุต ผงโกโก้ กล้วยทอดบด ไซรัปผลไม้รสต่าง ๆ ผงกระวาน อบเชย ลูกจันทน์เทศ และขมิ้น
กาแฟผ่านการปรุงแต่ง ถ้าหากคุณไม่ชอบ หรือไม่ต้องการปรุงแต่ง จะเพิ่มรสชาติรสกาแฟ คุณอาจจะลองจับคู่กาแฟที่คุณชอบ กับอาหาร หรือขนมหวานก็ได้ การทำแบบนี้ก็เป็นการชูรสกาแฟเพิ่มขึ้นได้อีกเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น กาแฟจากประเทศคอสตาริก้า และกาแฟจากทางทวีปอเมริกาใต้ จะเข้ากันได้ดีกับช็อคโกเเลต และเมื่อกินกับขนมอบก็เข้ากันได้ดีเช่นเดียวกัน หรือเบอร์รี่สด และผลไม้ที่เมล็ดแข็ง ก็ยิ่งจะมีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น เมื่อทานกับกาแฟจากประเทศแทนซาเนีย