กาแฟ ดำ (Black Coffee) นั้นเป็นอะไรที่เรียบง่าย แต่ถึงอย่างนั้นก็ให้ประสบการณ์ของการดื่มกาแฟที่หลากหลาย เพราะเป็นการที่คุณจะได้ลิ้มรสชาติ และได้ดมกลิ่นหอมๆของกาแฟแต่ละชนิดอย่างแท้จริง
วิธีทำกาแฟดำ มีหลากหลายวิธี
Drip Coffee
เรามักจะสับสนกับคำว่า Drip Coffee กับ Pour-Over Coffee โดยเฉพาะในประเทศไทย เรียกกาแฟ Pour-Over Coffee ว่ากาแฟดริปกันจนติดปากแต่ที่จริงแล้วต่างกันโดยสิ้นเชิง การชงกาแฟแบบ Drip Coffee โดยปกติแล้ว เราจะใช้เครื่องชง และชงดื่มกันในบ้าน แต่ที่เราดื่มกันตามร้านกาแฟ เป็นกาแฟแบบสเปเชียลตี้ และนั่นเป็นการชงอีกแบบหนึ่ง
Pour-Over Coffee
วิธีนี้จะคล้ายกับกาแฟดริป เพราะ เป็นการเทน้ำร้อนลงบนกาแฟบดที่บดแล้วในกรองกระดาษ หรือกรองผ้าก็ได้ จะต้องเทน้ำให้ไหลผ่านเมล็ดกาแฟที่บด โดยการควบคุมอัตราการไหลของน้ำ และใช้ความพิถีพิถัน บาริสต้าที่เชี่ยวชาญนั้น สามารถที่จะดึงกลิ่น และรสชาติที่ซับซ้อนของกาแฟออกตัวนั้นออกมาได้
วิธีการนี้ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และมักจะนำมาชงกาแฟเกรดคุณภาพ เกรดพิเศษหรือสเปเชียลตี้ ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็สามารถหาดื่มกาแฟที่ชงแบบนี้ได้แล้ว การชงกาแฟแบบ Pour-Over Coffee ไม่ใช่แค่กาแฟ ไม่ใช่แค่การใช้น้ำที่เหมาะสม กับปริมาณกาแฟที่เหมาสม แต่กลายเป็นเหมือนกับศิลปะ ที่แต่ละคนก็จะมีวิธีการแตกต่างกันออกไปด้วย
French Press Coffee
เป็นการชงกาแฟโดยใช้น้ำร้อนเช่นเดียวกันกับวิธีการชงกาแฟข้างต้น แต่จะใช้กาแฟที่บดค่อนข้างหยาบ หลังจากนั้นจะเทน้ำร้อนลงในกาแฟที่อยู่ในกาชงกาแฟแบบ French press จากนั้นจะทำการกดกาแฟลง โดยมีกรองตาข่ายรองอยู่
Cold Brew Coffee
หรือกาแฟสกัดเย็น แต่เดิมนั้นมีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น วิธีการชงกาแฟแบบใช้น้ำเย็นนี้ หรือน้ำในอุณหภูมิธรรมดา และมีความจำเป็นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการชงกาแฟแบบสกัดเย็น บางครั้งก็จะใช้เครื่องชงกาแฟ French press ในการชงกาแฟสกัดเย็น
นอกจากนี้ ยังมีอีกวิธีหนึ่ง เป็นการปล่อยให้กาแฟหยดลงในโถอย่างช้า ๆ เป็นวิธีการที่ต้องใช้ความอดทนสูง อาจกินเวลาตั้งแต่ 12-24 ชั่วโมง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ คือ กาแฟที่ มี acidity ที่ต่ำ และความเข้มข้น ซึ่งอาจดื่มเลยเป็นกาแฟ ดำ หรืออาจนำมาผสมกับนม แล้วดื่มก็สดชื่น และดีไม่แพ้กัน
Turkish Coffee
เป็นวิธีการที่นิยมบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก และคาบสมุทรบอลข่าน ทั้งที่เป็นวิธีการแบบโบราณ และมีอายุมากกว่าหลายร้อยปีแล้ว เป็นการบดกาแฟอย่างละเอียด จากนั้นผสมกับน้ำ และนำมาเคี่ยวในหม้อขนาดเล็ก จนเกิดฟองเป็นวงแหวนรอบ ๆ และเกาะตัวกัน โดยที่ไม่ได้กรองกากกาแฟออก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจิบกาแฟนี้อย่างช้า ๆ เพื่อให้กากกาแฟตกตะกอนอยู่ที่ก้นถ้วย