25 facts about coffee

25 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟ มาทำความรู้จักกับกาแฟ 1 ใน 3 ของเครื่องดื่มที่ผู้คนนิยมดื่มกันมากที่สุด บนโลกนี้มีจำนวนประชากรมากกว่า 6 พันล้านคน เฉลี่ยคนเราดื่มกาแฟละ 3,000 ตันต่อวัน ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่นิยมดื่มกาแฟมากที่สุด เพราะมีจำนวนประชากรเยอะที่สุด

ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 ในทุกๆปี วันที่1 ตุลาคม ถูกจัดให้เป็นวันกาแฟสากล หรือInternational Coffee Day เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับเกษตรกรที่ปลูกกาแฟ และผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟทั่วโลก

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟ

25 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟที่คุณควรรู้

  1. กาแฟ (Coffee) มาจากภาษาตุรกี (เตอร์กิช) และมีความเกี่ยวข้องกับคำว่า “Kaffe” ซึ่งเป็นชื่อเรียกของพื้นที่แห่งหนึ่งในประเทศเอธิโอเปียที่มีการค้นพบเมล็ดกาแฟ
  2. กว่า 60 ประเทศทั่วโลก มีพืชเศรษฐกิจเป็นกาแฟ และปัจจุบันนี้มีผู้คนมากกว่า 25 ล้านคนทั่วโลกมีการปลูกกาแฟยังชีพ
  3. กาแฟ เป็นสินค้าอันดับ 2 ของตลาดโลกที่มีการซื้อขายรองลงมาจากน้ำมันปิโตรเลียม
  4. ชาวไร่กาแฟ เรียกผลของต้นกาแฟว่า ผลเชอร์รี่
  5. ต้นกาแฟ เป็นพืชตระกูลเดียวกับไม้จำพวกพุดจีนที่พบอยู่ทั่วไปตามสวนเป็นพุ่มสีเขียว
  6. โดยเฉลี่ยต้นกาแฟจะถูกดูแล ตัดแต่งให้มีความสูง ตั้งแต่ 9 เมตร แต่ไม่เกิน 12 เมตร เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บเกี่ยว และได้ผลผลิตสูง
  7. ต้นกาแฟ 1 ต้น แต่ละฤดูกาลสามารถผลิตเป็นกาแฟคั่วได้ 450 ถึง 680 กรัม และผลกาแฟประมาณ 2.27 กิโลกรัม เมื่อผ่านกระบวนการต่างๆแล้วจะได้กาแฟสด 0.45 กิโลกรัม
  8. Espresso 1 Shot จะใช้เมล็ดกาแฟประมาณ 40 เมล็ด
  9. ผลกาแฟจะสุกไม่พร้อมกันทั้งกิ่ง ดังนั้นการเก็บเกี่ยวจึงต้องใช้คน และต้องเก็บทีละผล ซึ่งส่งผลในเรื่องของความหอมของกาแฟ
  10. การดูแลต้นกาแฟ ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง เพราะคาเฟอีนเป็นสารฆ่าแมลงในตัวอยู่แล้ว
  11. เมล็ดกาแฟมีหลากหลายสายพันธุ์มี สายพันธุ์กาแฟหลัก 4 สายพันธุ์ ได้แก่ อาราบิก้า โรบัสต้า ลิเบอริก้า และเอ็กเซลซ่า
  12. แต่ที่นิยมดื่มกันมากที่สุดคือ อาราบิก้า เพราะเป็นกาแฟคุณภาพดี ปริมาณคาเฟอีนน้อยแค่ 1% เท่านั้น แล้วยังมีรสชาติกลมกล่อม
  13. ส่วนโรบัสต้าเป็นคุณภาพรองลงมา มักใช้ในการผลิตกาแฟสำเร็จรูป
  14. Aroma หรือความหอมของกาแฟเป็นสิ่งที่ช่วยบอกรสชาติของกาแฟ
  15. Acidity หรือความสดชื่น หมายถึง ความสดชื่นมีชีวิตชีวาเมื่อคุณได้ดื่มกาแฟ ไม่ได้หมายถึงความขม หรือความเปรี้ยว
  16. Body หมายถึง น้ำหนักของกาแฟที่หลงเหลืออยู่บนลิ้นหลังจากคุณดื่มกาแฟ มีตั้งแต่บอดี้เบาถึงบอดี้หนัก
  17. Flavor หรือรสชาติ เป็นส่วนสำคัญของกาแฟ เพราะเป็นการผสมผสานความหอม ความมีชีวิตชีวา ความเข้ากันกับบอดี้ ทำให้ผู้ที่ดื่มกาแฟนั้นเกิดความประทับใจ
  18. การปลูกกาแฟจะปลูกบริเวณที่เรียกกันว่า Coffee Belt ถ้าประเทศไหนอยู่นอกเหนือจากบริเวณนี้ จะไม่สามารถปลูกกาแฟได้ และต้องนำเข้าเมล็ดกาแฟเท่านั้น
  19. ประเทศแถบคาบสมุทรอาระเบีย และประเทศเอธิโอเปีย มีต้นกาแฟเป็นพืชท้องถิ่น แต่ชาวดัชเป็นผู้ที่นำไปปลูกในประเทศอินโดนีเซีย และได้แพร่กระจายไปทั่วโลก
  20. โดยปกติแล้วต้นกาแฟจะออกดอกแค่ปีละครั้ง
  21. ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์ของกาแฟ ดอกของกาแฟมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับดอกมะลิที่ร่วง ลักษณะผลคล้ายกับลูกเชอร์รี่เล็กๆ สีแดง ขึ้นมาแทนที่ดอกที่ร่วงจากต้น รวมระยะเวลาตั้งแต่ออกดอกจนถึงการเก็บเกี่ยวใช้เวลาประมาณ 9 เดือน
  22. ภูมิประเทศที่เหมาะสมกับการปลูกกาแฟอาราบิก้ามากที่สุดคือ พื้นที่แถบเส้นศูนย์สูตร มีความสูง 600 ถึง 1800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งจะทำให้เมล็ดกาแฟค่อยๆสุก และกลายเป็นเมล็ดกาแฟคุณภาพดี และมีรสชาติที่กลมกล่อมมากกว่า
  23. มีหลายประเทศที่ปลูกกาแฟอาราบิก้า สามารถพบสายพันธุ์แบบดั้งเดิม และสายพันธุ์ผสม ซึ่งพบการผสมของสองสายพันธุ์นี้เกือบทุกพื้นที่ที่มีการปลูกกาแฟ
  24. บริเวณที่ปลูกกาแฟส่วนใหญ่ เรียกกันว่า Tropic of Cancer และ Tropic of Capricorn ซึ่งอยู่ระหว่างเส้นศูนย์สูตรที่ 23 องศา 27 ลิปดาเหนือ และใต้ ครอบคลุมพื้นที่แถบหมู่เกาะแปซิฟิก อราเบีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา
  25. ภูมิศาสตร์ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้กาแฟมีความหลากหลาย ทั้งภูมิอากาศ ระดับความสูงของบริเวณที่ปลูก นอกจากนี้ยังมีวิธีการเพาะปลูกที่แตกต่างกัน จึงทำให้เมล็ดกาแฟจากแต่ละที่มีความแตกต่างกัน และมีเอกลักษณ์
ความแตกต่างของเมล็ดกาแฟ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟจากแต่ละภูมิภาค มีลักษณะที่โดดเด่นดังนี้

ที่มา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *